แก้ กม.ค้าเสรีสัตว์ป่าคุ้มครอง เพาะขยายพันธุ์มุ่งเป้าสู่ตลาดโลก
"ไก่ฟ้าสายพันธุ์ไทย" สัตว์ป่าหาดูได้ยาก และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่มีความสวยงามสะดุดตา เป็นสัตว์ป่าที่มีชื่ออยู่ในบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง กำหนดให้เป็นสัตว์ป่าชนิดสัตว์ป่าคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ตามพระราชบัญญัติสงวน ประกอบด้วยสัตว์ป่าจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 201 ชนิด นก 952 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 91 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 12 ชนิด แมลง 20 ชนิด ปลา 14 ชนิด และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ 12 ชนิด
แต่การเพาะเลี้ยงไก่ฟ้า ยังคงมีกลุ่มคนที่ยังเพาะเลี้ยงในหมู่คนรักสัตว์ เลี้ยงไว้เพื่อดูเล่น เพื่อความสวยงาม แบบหลบๆ ซ่อนๆ เพราะว่ากฎหมายไม่อนุญาต บางคนหันไปเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าสายพันธุ์ต่างประเทศแทน
จึงมีพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ได้มีการออกพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ขึ้นมาใช้แทนพระราชบัญญัติฉบับเดิม มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 15 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับนี้
มีการอนุญาตให้ภาคเอกชนดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะได้ เพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองบางชนิดได้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และขยายพันธุ์สัตว์ที่มีจำนวนน้อย และใกล้สูญพันธุ์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อเป็นการเสริมรายได้ของประชาชน แต่ไม่มีผลกระทบที่จะทำให้สถานการณ์การสูญพันธุ์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มโทษต่อการกระทำความผิดให้สูงขึ้น ดังสาระสำคัญของกฎหมายตามที่ฝ่ายพัฒนา และส่งเสริม การอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้
หลังจากนั้นกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีประกาศเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 เพื่อเร่งการขยาดพันธุ์สัตว์ป่า และการสงวนและคุ้มครองควบคู่กัน อาศัยอำนาจตามระเบียนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการอนุญาตให้ทางราชการกระทำการล่า เพาะพันธุ์ ครอบครอง นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่า การเก็บทำอันตราย หรือมีไว้ครอบครอง ซึ่งรังของสัตว์ป่า และการเรียกเก็บ และชำระค่าใช้จ่าย ค่าบริการ หรือค่าตอบแทน และราคาสัตว์ป่า พ.ศ.2540 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมีการกำหมดราคาสัตว์ป่า เพื่อจำหน่ายให้ผู้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนและสัตว์คุ้มครองนำไปเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ หรือผู้อนุญาตให้ตั้งและดำเนินการกิจการสวนสัตว์สาธารณะนำไปดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ ซึ่งมีแบบออกเป็นสัตว์ป่าจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 8 ชนิด สัตว์ป่าจำพวกนก 42 ชนิด และสัตว์เลื้อยคลาน 4 ชนิด
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เริ่มโครงการจากการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าสายพันธุ์ไทยซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกของไทย คาดว่าภายใน 2-3 ปี จะเพิ่มประชากรไก่ฟ้าสายพันธุ์หายากให้เพิ่มมากขึ้น จนถึงสามารถส่งออกได้
ดร.ชวาล ทัฬหิกรณ์ ที่ปรึกษาสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรชีวภาพ (การส่งเสริมการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้า) บอกว่า ตามที่สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรชีวภาพ(สพภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ส่งเสริมการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้า ซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อประโยชน์ในเชิง เศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างความสมดุลต่อระบบนิเวศน์ ปัจจุบันทั่วโลกมีไก่ฟ้ารวม 16 ตระกูล ส่วนในไทยมี 6 ตระกูลรวม 14 ชนิด จึงนับว่ามีความหลากหลายมากพอสมควร แต่ที่ผ่านมามีการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้า แต่ยังไม่ถูกกฎหมาย กระทั่งในปี 2546 ทางกรมอุทยานฯ ได้ออกกฎกระทรวงเปิดให้สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองได้ 54 ชนิด เพื่อเร่งรัดขยายพันธุ์สัตว์ป่า แต่ยังไม่เปิดให้มีการค้าขายได้
จนเมื่อเดือน ธ.ค. 2551 สพภ.ได้มีการหารือกับ อธิบดีกรมอุทยานฯ เพื่อเปิดโอกาสให้เพาะเลี้ยงไก่ฟ้าในเชิงธุรกิจได้ โดยกรมอุทยานฯ มีมติกำหนดราคากลางพ่อแม่พันธุ์ไก่ฟ้า ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 500-30,000 บาท เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีสีสันสวย ทำให้ได้รับความนิยมนำไปเลี้ยงเพื่อความสวยงาม แต่หลังจากนี้ การเพาะเลี้ยงไก่ฟ้า ต้องเป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน โดยจะนำร่องไก่ฟ้าสายพันธุ์ไทย 5 ชนิดได้แก่ ไก่ฟ้าพญาลอ ไก่ฟ้าหลังขาว หรือ จันทรบูร ไก่ฟ้าหลังเทาแข้งแดง ไก่ฟ้าหน้าเขียว และไก่ฟ้าหางลายขวาง ซึ่งมีพ่อแม่พันธุ์จำนวนกว่า 300 ตัวอยู่ในสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ซึ่งเบื้องต้นมีกลุ่มเกษตรกร และธุรกิจประมาณ 30 คนให้ความสนใจที่จะทำธุรกิจเพาะเลี้ยงไก่ฟ้า เพื่อความสวยงามในเชิงการค้า จัดอบรมทั้งเทคนิคการเพาะเลี้ยง การป้องกันโรค ตลอดจนคำแนะนำจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเข้ามาช่วยในการสนับสนุนแหล่งทุน
เมื่อช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าแบบใต้ดิน เนื่องจากกรมอุทยานฯ ออกกฎกระทรวงให้เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า จำนวน 54 ชนิด รวมทั้งไก่ฟ้า และนกสวยงามอื่นๆ แต่ยังไม่อนุญาตให้ค้าขายได้ จนมีการหารือร่วมกับระหว่าง สพภ. และกรมอุทยานฯ เห็นว่าน่าจะนำกระบวนการใต้ดิน มาทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่รัฐต้องมีระเบียบ กติกาที่ชัดเจน เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้มีการอนุรักษ์ไก่ฟ้า แต่ยังจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร และอนาคตจะช่วยขยายพันธุ์ไก่ฟ้าที่มีความเสี่ยงกลับคืนป่าได้อีกด้วย
การอนุญาตให้เพาะเลี้ยงไก่ฟ้า เพื่อความสวยงามเท่านั้น ไม่ส่งเสริมให้นำไปบริโภคเนื้อ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่เปิดให้ค้าขายสัตว์ป่าบางรายการ โดย สพภ.ยังหารือสัตว์อื่นๆ อาทิ ชะมด เนื่อง จากไขของชะมดจะต่อมฮอร์โมน ที่มีมูลค่าราคาสูง รวมทั้ง กวางม้า แต่กรมอุทยานฯให้ความเห็นว่าถ้าจะให้ขยายพันธุ์สัตว์อื่นๆในเชิงการค้าต้องมีตำรา และมีข้อมูลทางวิชาการที่ชัดเจนก่อน จึงจะอนุญาต ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในการจัดโครงการดังกล่าว
ด้าน นายทรงกลด พู่ทอง หัวหน้าสถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าบางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บอกว่า ในอดีตกฎหมายในเรื่องของสัตว์ป่ารุนแรง ควบคุมมาก ทั้งการครอบครอง การเลี้ยง การล่า หรือการฆ่า แต่ในปัจจุบันกลุ่มผู้รักสัตว์มีความต้องการ และลักลอบเพาะเลี้ยงกันเป็นจำนวนมาก หรือมีการลักลอบสัตว์ป่าต่างถิ่นเข้ามาขายกันจึงไม่สามารถที่จะทนต่อกระแสความต้องการของกลุ่มผู้ต้องการได้ และการจัดการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าของคนไทยมีศักยภาพที่สูงมาก ประกอบกับสัตว์ป่าบางชนิดมีจำนวนลดน้อยลง จึงมีการกำหมดสัตว์ป่า 54 ชนิด ที่สามารถให้กลุ่มผู้ที่สนใจเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าได้ แต่ต้องขออนุญาตกับกระทรวงทรัยากรฯ ถูกต้องตามกฎหมายก่อน
"การอนุรักษ์สัตว์ป่า คือ การใช้ประโยชน์กับสัตว์ป่า และคำนึงถึงจำนวนประชากรในธรรมชาติถึงความเหมาะสม เช่น ไก่ฟ้า ใน 1 ปี ออกลูก 40-50 ตัว ซึ่งในตลาดมีความต้องการสูง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในอนาคตสามารถเพาะพันธุ์ให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจได้ นอกจากนี้ยังเป็นการขยายพันธุ์ เพื่อช่วยไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากโลกด้วย"นายทรงกรด กล่าว
ขณะที่นายสุรัตน์ อนันต์สุข ชาว กทม. เพาะเลี้ยงไก่ฟ้ามาตั้งปี2546 บอกว่า เดิมเพาะเลี้ยงไก่ฟ้าเพื่อความสวยงาม ปัจจุบันไก่ฟ้า มีการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และกฎหมาย เปิดโอกาสให้เป็นไปในเชิงการค้าได้ จึงประกาศขายชุดแรกมีไก่ฟ้าอยู่ 100 คู่ ขายเริ่มต้นราคา 1,500 บาท เมื่อประกาศเพียง 2 สัปดาห์ มีกลุ่มผู้รักไก่ฟ้า สนใจเข้ามาซื้อไปจนหมด
ขณะนี้กำลังศึกษามองถึงตลาดต่างประเทศ โดยเข้าไปศึกษาในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผู้สนใจ สั่งจองไก่ฟ้าจำนวนมาก อนาคตจะทำเป็นธุรกิจ ส่งขายไก่ฟ้าในประเทศเพื่อนบ้านก่อน
คงเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มผู้อนุรักษ์เพาะเสี้ยงสัตว์ป่า ที่ไม่ต้องเลี้ยงกัน หลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป และยังสามารถเพาะขยายพันธุ์ไปในเชิงการค้าได้ เพียงแค่ยื่นอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎมายเท่านั้น ก็สามารถเสี้ยง และทำเป็นธุรกิจได้
แนวหน้า 2552