ลักษณะ : อีแร้งชนิดหนึ่งในสี่ชนิดของประเทศไทยจัดเป็นนกขนาดใหญ่ลำตัวยางถึง90เซนติเมตรสีลำตัวดำแกม
น้ำตาลบริเวณส่วนหัวและลำคอไม่มีขนปกคลุมเป็นแผ่นหลังสีคล้ำตอนล่างของคอมีขนเป็นวงสีขาวรอบหลังตอน
ล่างและโคนหางสีขาวเด่นชัดบริเวณด้านในของต้นขามีแต้มสีขาวซึ่งจะเห็นได้ชัดขณะเกาะยืนนกอายุน้อยลำตัวสีน้ำตาล
ออกแดงหรือสีน้ำตาลเข้มไม่มีแถบสีขาวเลย
อุปนิสัย : กินซากสัตว์เป็นอาหาร ทำรังในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทำรังบนยอดไม้สูง เคยพบทำรังบนยอดต้นมะพร้าว วางไข่ครั้งลำ 1 ฟอง ทั้งสองเพศช่วยกันทำรังและกกไข่
ที่อยู่อาศัย:เคยพบมีชุกชุมทั่วไปในบริเวณที่ราบชอบเกาะอยู่ในฝูงใหญ่บนต้นไม้ตามลาดเขาและต้นไม้สูงตามชายป่า
หรือริมไร่นา
เขตแพร่กระจาย:อีแร้งชนิดนี้มีเขตแพร่กระจายตั้งแต่ประเทศอินเดียจีนด้านตะวันออกเฉียวใต้และทั่วบริเวณเอเซีย
ตะวันออกเฉียงใต้
สถานภาพ:ปัจจุบันอีแร้งเทาหลังขาวเป็นนกที่หาดูได้ยากมากมีรายงานการพบนกชนิดนี้ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วย
ขาแข้ง จังหวัดตากและจังหวัดอุทัยธานี ที่ใกล้โรงฆ่าสัตว์ จังหวัดปัตตานี และที่ทุ่งนาริมถนนในจังหวัดชัยภูมิ
สาเหตุของการใกล้จะสูญพันธุ์:ในระยะหลังอีแร้งหาด้ยากเนื่องจากการขาดแคลนอาหารจากการที่สุขาภิบาลเจริญ
ขึ้นจะมีการกำจัดซากสัตว์ให้หมดไปไม่ทั้งไว้ตามที่ต่างๆเหมือนในอดีตในปัจจุบันจะพบอีแร้งตามโรงฆ่าสัตว์ที่ใกล้บริเวณ
ป่าอีแร้งจะมีแหล่งอาหารและแหล่งพักนอนหรือแหล่งทำรังวางไข่อยู่ในบริเวณเดียวกันอีกประการหนึ่งอีแร้งเป็นนกที่แพร่
พันธุ์ได้ช้ามากวางไข่เพียงครั้งละฟองและลูกอ่อนจะเติบโตช้าพ่อแม่นกต้องใช้เวลานานในการเลี่ยงดูผลกระทบอื่นๆที่มีผล
ต่ออีแร้งน้าจะเป็นการล่าของมนุษย์โดยการใช้เป็นเป้าลองทางปืนหรือเป็นสัตว์ที่เชื่อถือกันว่าน่าจะนำโชคร้ายมาสู่บ้านเรือน