นกเหยี่ยวเพเรกริน Peregrine Falcon

เหยี่ยวเพเรกรีน

> สังเกตปลายปีกไม่แตกออกเป็นนิ้วมือชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะของเหยี่ยวปีกแหลม แต่ให้ระวังเหยี่ยวเพเรกรีนที่ร่อนลมอยู่กับที่ ปลายปีกอาจแผ่กางออกกว่านี้มากนัก

> เหยี่ยวเพเรกรีนจัดเป็นเหยี่ยวปีกแหลมขนาดใหญ่ในสกุล Falcon และถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเหยี่ยวปีกแหลมที่พบในประเทศไทย เป็นรองเพียงเหยี่ยวเจอร์ฟอลคอน (Gyrfalcon) ของแถบขั้วโลกเหนือที่เป็นเหยี่ยวปีกแหลมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

> แขนสั้นแต่กว้างแลหนา มือสั้นและค่อนข้างแคบ ทำให้รูปเงาปีกแต่ละข้างคล้ายรูปสามเหลี่ยม ลำตัวแน่นตัน เมื่อหุบปีกเข้ามาจะทำให้เงาปีกเป็นรูปตัวเอ็มอย่างในภาพ หางยาวปานกลางเท่านั้น ใช้แยกจากเหยี่ยวปีกแหลมขนาดเล็ก เช่นเหยี่ยวฮ็อบบี้ที่มีหางยาวมาก

> เหยี่ยวเพเรกรีนถือเป็นนักล่าเจ้าเวหาอย่างแท้จริง สามารถทำความเร็วอย่างรวดเร็วเพื่อไล่กวดเหยื่อที่เป็นนกที่บินเร็ว เช่นนกพิราบ ขณะบินจะตีปีกตื้น หนักแต่มีพลังทำให้ลำตัวพุ่งไปข้างหน้าอย่างมีจุดมุ่งหมาย ขณะเดียวกันก็มีความคล่องตัวที่จะพลิกผันเปลี่ยนทิศทางไล่ตามเหยื่อได้อย่างง่ายดาย จัดปีกขณะร่อนเหยียดตรงขนานกับระนาบลำตัวหรือเมื่อลมแรงจะกดปีกโค้งโก่งลงด้านล่างเล็กน้อย

> น้อยครั้งที่จะตีปีกอยู่กับที่เพื่อกำหนดตำแหน่งของเหยื่อ ซึ่งต่างจากเหยี่ยวเคสเตรลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวเป็นประจำขณะล่าเหยื่อกลางทุ่งโล่งกว้าง ในขณะที่เหยี่ยวเพเรกรีนมักล่าเหยื่อตามตึกสูง ท้องฟ้า หรือใกล้แหล่งน้ำ เช่นชายทะเล ที่มีนกชายเลนรวมฝูงจำนวนมาก

มีอะไรให้อ่านอีกมั้ยครับ ผมอยากได้ความรู้อีก ชอบๆ

goshawk พิมพ์ว่า:

ผิดเปล่าครับไม่ได้ขัดนะแต่ไม่อยากให้คนอื่นได้ความรู้ที่ผิดๆ ชื่อเขาก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่ในตระกูลปีกแหลมยาว แขนไม่ได้สันแต่แขนยาวไม่กว้างปีกแหลมยาวแคบต่างหากครับ หางสั้นไม่ยาวครับ ไม่ใช่สั้นอย่างเดียวนะครับค่อนข้างจะสั้นมากด้วย สั้นกว่าเมอรลีนอีก เหยี่ยวปีกแหลมจะหางสั้นยกเว้นเคสเทค เท่านั้นหางจะยาวกว่าเพื่อน ที่นกทำความเร็วได้ก็ต่อเมื่อนกทิ้งดิ่งและควงสว่านเท่านั้น ระยะทางตรงจะไวกว่าเหยี่ยวชนิดอื่นมากเพราะเหยี่ยวเพเรกกินเวลาบินไล่เหยื่อใน 1 วินาทีจะกระพือปีกได้ 4 ครั้งเวลาทิ้งดิ่งแล้วจะไวกว่าเครื่องบินเจสมากๆ ถ้าตัวเท่ากันนะแต่จากการคำนวนออกมาแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าเป็นเหยี่ยวชนิดใดที่บินอยู่อากาศต้องศึกษากันอีกเยอะครับส่วนตัวผมศึกษามาหลายสิบปีแล้วจึงดูออกว่าเหยี่ยวชนิดไหนแต่ก็ไม่เก่งถึงกับขนาดแยกเพสได้หรอกนะครับแต่ก็ได้บ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่แยกวัยเด็กกับโตได้ และที่สำคัญเก่งอย่างเดียวไม่พอครับต้องกล้องของคุณต้องดีด้วยมีแค่สองตาหรือไบน็อคทำไม่ได้ครับ ต้องมี สโคบด้วยถึงจะชัดและจับภาพทันครับ ที่เคลเทลทอดสมอหรือที่พวกคุณเรียกกันว่าตีปีกอยู่กับที่นะ เคทเทลมีความสามารถพิเศษก็คือจะมองเห็นฉีหนูที่สะท้อนกับแสงอุนตร้าไวโอเล็ด ทำให้มองเห็นเป็นทางยาว เคทเทลก็จะทอดสมออยู่กับที่เพื่อค้นหาเหยื่อนานขึ้นซึ่งปกติแล้วก็จะบินหาเหยื่อไปเรื่อยๆ แต่พอเจอฉีหนูก็จะบินอยู่กับที่นิ่งๆ ค้นหาเหยื่อพอเจอก็จะโฉบลงไป เพราะเหยี่ยวเคทเทลมีความสามารถพิเศษนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเพราะฉะนั้นพ่อแม่ของเขาจะไม่สอนล่าเหยื่อ ซึ่งเป็นพฤติกรรมของเหยี่ยวทุกตัว พ่อแม่จะค่อยๆ ป้อนอาหารห่างไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายนกก็จะกินกันเองจะเหลือรอดเพี่ยงแค่ 1 ตัวหรือไม่ก็ตัวที่แข็งแรงเท่านั้นนะครับนี้คือชีวิตของเหยี่ยว ก่อนจะเลี้ยงศึกษาข้อมูลก่อนนะครับไม่ใช่หานกมาเลี้ยงแล้วศึกษาทีหลัง ผมศึกษาข้อมูล 3 ปีเต็มถึงจะหานกเข้ามาเลี้ยง และที่สำคัญที่สุดถ้าจะฝึกนกสำเร็จคุณต้องรู้นิสัยนกก่อนถึงจะฝึกได้

แน่นปึกจริงๆครับ ยังไงผมอยากรบกวนถ้าคุณ Goshawk มีเวลาอยากให้เข้าไปให้ข้อมูลของเหยี่ยวแต่ละประเภททีนะครับ

ผิดหรือไม ผมไม่ทราบครับ แต่เป็นข้อมูลของนักดูนก ข้อมูลนกชนิดนี้มีมากมายที่สุดในต่างประเทศทำวิจัยกันมากทุกยุคสมัยครับ

ไม่ได้เรียกว่าข้อมูลขัดแย้งหรอกครับ เพียงแต่แหล่งข้อมูลที่ได้มาอาจจะแตกต่างกันเท่านั้นเอง อย่างนี้สิดี ผมชอบ...จะได้ไปหาข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆมาอ้างกันมาเติมเต็มกันได้ครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าอันไหนถูก....

มีข้อมูลอะไรดีๆก็มาแชร์กันครับ ผิดถูกอย่างไรพวกเราก็มา Discuss กันได้

http://bss.sfsu.edu/holzman/courses/Fall99Projects/falcon.htm

ขอบคุณพี่หนุ่ยและคุณ Goshawk มากนะครับสำหรับข้อมูลดีๆ
ที่จะมีตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้างก็คงเป็นเรื่องของตำราแต่ละที่
ดีซะอีกครับ จะได้เป็นการแชร์ข้อมูลกันด้วย

อยากได้ สักตัว จังเลยยยยยยย
เอาพิราบ มา ทา หน้า อิอิ

ใช่ ๆ เคย ดู แล้ว ด้วย ครับ

เสียง
http://identify.whatbird.com/snd/80/percevia.mp3

Falco peregrinus peregrinator
เป็นพันธุ์ย่อยที่พบบ่อยในสยามประเทศ

0. Falco p. peregrinus
1. Falco p. calidus
2. Falco p. brookei
3. Falco p. japonensis
4. Falco pelegrinoides Pelegrinoides
5. Falco p. peregrinator
6. Falco p. minor
7. Falco p. pealei
8. Falco p. anatum
9. Falco P. cassini
10. Falco p. macropus
11. Falco p. melanogenys
12. Falco p. submelanogenys
13. Falco p. madens
14. Falco p. radama
15. Falco p. fruitii
16. Falco p. ernesti
17. Falco p. nesiotes
18. Falco peregrinoides Babylonicus
19. Falco p.harterti
20. Falco p. kreyenborgi
21. Falco p. vivarrius
22. Falco p. tundrius

เหยี่ยวเพริกรินมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Falco peregrinus พวกมันเคยถูกเรียกว่า เหยี่ยวเป็ดน้ำ มาก่อนในอเมริกาเหนือ ชื่อของเหยี่ยวเพริกรินมีความหมายว่า นกนักเดินทาง เพราะพวกมันจะอพยพทุกๆปีเป็นระยะทางประมาณ 25,000กิโลเมตรเเละกลับมาที่เดิมได้ด้วยสัญชาติญาณอันเยี่ยมยอด พวกมันโด่งดังในเรื่องความเร็ว เหยี่ยวเพริกรินสามารถบินเร็วได้ถึง 320กิโลเมตรต่อชั่วโมงระหว่างที่ล่าเหยื่อ ด้วยความเร็วขนาดนี้ทำให้เหยี่ยวเพริกรินเป็นสัตว์ที่เร็วที่สุดในโลก เหยี่ยวเพริกรินมีขนาดประมาณอีกา พวกมันมีขนสีเทา, ใต้ท้องสีขาว เเละหัวสีดำ เหยี่ยวเพริกรินนั้นเป็นนกนักล่าที่กินนกด้วยกัน อาหารหลักของพวกมันนั้นก็มีไปตั้งเเต่ นกขนาดกลาง, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็ก, งูตัวเล็กหรือเเม้เเต่เเมลง เหยี่ยวเพริกรินเป็นกล่าเหยื่อที่สามารถพบได้ทั่วทุกที่ในโลก ตั้งเเต่ เขตทุนดราทางเหนือไปจนเขตร้อน เเต่ไม่พบในขั้วโลกใต้, ภูเขาสูงๆเเละป่าฝนเท่านั้น ที่เเห่งเดียวที่ไม่มิน้ำเเข็งที่ไม่สามารถพบเหยี่ยวเพริกรินได้นั้นก็คือ นิวซีเเลนด์ เเละด้วยความที่เหยี่ยวเพริกรินสามารถพบได้ทั่วไปเช่นนี้ พวกมันจึงถูกขนานามให้เป็นนกนักล่าที่พบได้มากที่สุด ถึงเเม้ว่าเหยี่ยวเพริกรินจะมีมากมาย เเต่พวกมันก็เคยถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มาก่อน ด้วยเหตุผลมาจากการใช้ยาฆ่าเเมลง โดยเฉพาะ DDTเเต่เพราะ DDT โดนเเบนในปี 1970s ประชากรของเหยี่ยวเพริกรินจึงฟื้นตัว

เหยี่ยวเพริกรินตัวเมียนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ประมาณ 30%ซึ่งตรงกันข้ามกับนกนักล่าส่วนใหญ่ โดยปรกติเเล้วเหยี่ยวเพริกรินยาวประมาณ 34-58เซนติเมตร ปีกของพวกมันนั้นกว้างประมาณ 80-120เซนติเมตร น้ำหนักของเหยี่ยวเพริกรินตัวเมียนั้นประมาณ 910-1,500กรัม เเละตัวผู้ประมาณ 440-750กรัม เหยี่ยวเพริกรินเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 1ปี เหยี่ยวเพริกรินมีคู่ตัวเดียวลอดชีวิต เหยี่ยวเพริกรินทำรังบนหน้าผาหรือบางทีก็ในบ้านของคน รังบางรังของเหยี่ยวเพริกรินนั้นอาจจะถูกใช้กันเป็นทอดๆถึง 100ปี เเต่ละครั้ง เหยี่ยวเพริกรินวางไข่ประมาณ 2-4ฟอง เเละจะกกไข่ยาวประมาณ 1เดือน ลูกเหยี่ยวเพริกรินจะอาศัยอยู่ในรังประมาณ 6อาทิตย์ก่อนที่จะเริ่มหัดบิน อายุขัยของเหยี่ยวเพริกรินนั้นคือประมาณ 17ปี

มาเต็มเลยนะพี่กบ

kidatt พิมพ์ว่า:

มาเต็มเลยนะพี่กบ

ยาวไปๆๆๆๆๆ

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับเหยี่ยวเพริกริน

-เหยี่ยวเพริกรินไม่ทำรัง รังของพวกมันนั้นส่วนใหญ่คือหลุมที่มีขนาดพอเหมาะหรือรังของนกตัวอื่น
-DDTนั้นทำให้ไข่ของเหยี่ยวเพริกรินเปราะมากขนาดที่เเตกเมื่อพ่อเเม่พยายามกกไข่
-เหยี่ยวเพริกรินฆ่าเหยื่อด้วยการกัดที่คอ หรือถลาลงมาจากกลางอากาศเเละอาศัยเเรงกระเเทกนี้ปลิดชีวิตเหยื่อ
-เหยี่ยวเพริกรินล่าตอนกลางวัน
-เหยี่ยวเพริกรินเก่งกาจในความสามารถถลาไปจับสัตว์กลางอากาศ
-การถลาลงมาจับเหยื่อของเหยี่ยวเพริกรินนั้นอาจจะเร็วได้ถึง 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
-เหยี่ยวเพริกรินมีปีกเเหลม
-เหยี่ยวเพริกรินถูกใช้มากในการล่าสัตว์
-เหยี่ยวเพริกรินถูกขนานามว่า ชีต้าร์เเห่งนภา
-ลูกเหยี่ยวเพริกรินนั้นโตเร็วมาก โดยน้ำหนักของพวกมันนั้นเพิ่มขึ้นถึง 2เท่าใน 6วัน เเละเมื่อลูกเหยี่ยวอายุ 3อาทิตย์ พวกมันก็มีขนาดใหย๋กว่าตอนเกิดถึง 3เท่า
-พ่อเเม่เหยี่ยวสอนลูกให้บินโดยการเอาเหยื่อมาล่อ
-เหยี่ยวเพริกรินอาจจะเป็นสัตว์ที่เเข็งเเรงทีสุด เพราะพวกมันสามารถทนเเรงกดดันอากาศที่มากกว่าบนพื้นโลกถึง 25เท่าได้
-เหยี่ยวเพริกรินมีระบบหายใจที่ช่วยพวกมันให้หายใจในสภาวะที่ทำให้นกชนิดอื่นบาดเจ็บ
-เหยี่ยวเพริกรินมีสายที่ดีมาก โดยพวกมันสามารถมองเห็นเหยื่อที่ไกลเป็นกิโลๆได้
-เหยี่ยวเพริกรินไม่ชอบร่อนลงมาในเมือง ถึงเเม้ว่ามันจะทำเหยื่อตกก็ตาม
-เหยี่ยวเพริกรินทำรังในพื้นที่ที่ไม่มีเหยี่ยวตัวอื่นในรัศมี 5กิโลมตร
-ถึงเหยี่ยวเพริกรินจะล่าเหยื่อได้อย่างเก่งกาจก็ตาม พวกมันก็ชอบที่จะขโมยเหยื่อจากนกอื่นมา
-เหยี่ยวเพริกรินส่วนใหญ่ชอบจับเหยื่อที่มีขนาดประมาณ 12-50% ของขนาดตัวมันเองเทพโฮรัสของอียิปย์มีหัวเป็นเหยี่ยวเพริกริน

physics พิมพ์ว่า:

ZERK18 พิมพ์ว่า:

เหยี่ยวเพริกรินมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Falco peregrinus พวกมันเคยถูกเรียกว่า เหยี่ยวเป็ดน้ำ มาก่อนในอเมริกาเหนือ ชื่อของเหยี่ยวเพริกรินมีความหมายว่า นกนักเดินทาง เพราะพวกมันจะอพยพทุกๆปีเป็นระยะทางประมาณ 25,000กิโลเมตรเเละกลับมาที่เดิมได้ด้วยสัญชาติญาณอันเยี่ยมยอด พวกมันโด่งดังในเรื่องความเร็ว เหยี่ยวเพริกรินสามารถบินเร็วได้ถึง 320กิโลเมตรต่อชั่วโมงระหว่างที่ล่าเหยื่อ ด้วยความเร็วขนาดนี้ทำให้เหยี่ยวเพริกรินเป็นสัตว์ที่เร็วที่สุดในโลก เหยี่ยวเพริกรินมีขนาดประมาณอีกา พวกมันมีขนสีเทา, ใต้ท้องสีขาว เเละหัวสีดำ เหยี่ยวเพริกรินนั้นเป็นนกนักล่าที่กินนกด้วยกัน อาหารหลักของพวกมันนั้นก็มีไปตั้งเเต่ นกขนาดกลาง, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็ก, งูตัวเล็กหรือเเม้เเต่เเมลง เหยี่ยวเพริกรินเป็นกล่าเหยื่อที่สามารถพบได้ทั่วทุกที่ในโลก ตั้งเเต่ เขตทุนดราทางเหนือไปจนเขตร้อน เเต่ไม่พบในขั้วโลกใต้, ภูเขาสูงๆเเละป่าฝนเท่านั้น ที่เเห่งเดียวที่ไม่มิน้ำเเข็งที่ไม่สามารถพบเหยี่ยวเพริกรินได้นั้นก็คือ นิวซีเเลนด์ เเละด้วยความที่เหยี่ยวเพริกรินสามารถพบได้ทั่วไปเช่นนี้ พวกมันจึงถูกขนานามให้เป็นนกนักล่าที่พบได้มากที่สุด ถึงเเม้ว่าเหยี่ยวเพริกรินจะมีมากมาย เเต่พวกมันก็เคยถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มาก่อน ด้วยเหตุผลมาจากการใช้ยาฆ่าเเมลง โดยเฉพาะ DDTเเต่เพราะ DDT โดนเเบนในปี 1970s ประชากรของเหยี่ยวเพริกรินจึงฟื้นตัว

เหยี่ยวเพริกรินตัวเมียนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ประมาณ 30%ซึ่งตรงกันข้ามกับนกนักล่าส่วนใหญ่ โดยปรกติเเล้วเหยี่ยวเพริกรินยาวประมาณ 34-58เซนติเมตร ปีกของพวกมันนั้นกว้างประมาณ 80-120เซนติเมตร น้ำหนักของเหยี่ยวเพริกรินตัวเมียนั้นประมาณ 910-1,500กรัม เเละตัวผู้ประมาณ 440-750กรัม เหยี่ยวเพริกรินเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 1ปี เหยี่ยวเพริกรินมีคู่ตัวเดียวลอดชีวิต เหยี่ยวเพริกรินทำรังบนหน้าผาหรือบางทีก็ในบ้านของคน รังบางรังของเหยี่ยวเพริกรินนั้นอาจจะถูกใช้กันเป็นทอดๆถึง 100ปี เเต่ละครั้ง เหยี่ยวเพริกรินวางไข่ประมาณ 2-4ฟอง เเละจะกกไข่ยาวประมาณ 1เดือน ลูกเหยี่ยวเพริกรินจะอาศัยอยู่ในรังประมาณ 6อาทิตย์ก่อนที่จะเริ่มหัดบิน อายุขัยของเหยี่ยวเพริกรินนั้นคือประมาณ 17ปี

เอ๋ เรื่องบินเร็ว เป็น Gyr นะครับพี่่

ที่ว่า320 เพรากวิน นี้ คือการดิ่ง เพื่อจับเหยื่อครับ

ขอบคุณครับ



มาเพิ่มเติมความเร็วในการบินครับ

Pour Gyr is 160 kph = 99.5 mph
Peregrines is 120 kph = 75 mph
Sakeres is 85 kph = 53 mph


Ken Franklin recorded a falcon stooping at a top speed of 389 km/h (242 mph).

Anatum Peregrines (Falco p. anatum)

Females



Males

ผมก็อยากลองฝึกดูนะครับ แต่พอได้คุยกับระดับเซียน ยังงัยๆเขาหงอนดีที่สุดครับ

อิจฉาพี่โอ่งจังครับที่มีแต่ของดีๆตกถึงมือ ว่าแต่จับมันมาด้วยวิธีอะไรครับ ยังไงเผื่อผมสักตัวนะครับพี่

คุณโอ่ ลงรูปซ้ำกันป่าวครับ เนี่ย จับมาเยอะเลี้ยงไม่ไหว สมาชิกทางนี้อยากได้ก็ยกให้เค้าก็ได้ครับ แฮ่ๆ

แถวบ้านพี่มีบินอยู่หลายตัว กว่าจะได้ตัวนี้มาเหนื่อยอยู่เหมือนกันต้องอดทนและทนอดเลยล่ะ

ongnisuka พิมพ์ว่า:

แถวบ้านพี่มีบินอยู่หลายตัว กว่าจะได้ตัวนี้มาเหนื่อยอยู่เหมือนกันต้องอดทนและทนอดเลยล่ะ

เบื่อหรือได้เพิ่มก็บอกผ่านมาทางสระบุรีนะคร้าบ หรือมีคนจองหมดแล้ว อิอิ

ok

สงสัยงานนี้ผมต้องจับมือกันไปเล่นสแต็ปกันแล้วล่ะ แต่ดำใหญ่คงหายยาก จะให้ง่ายก็คงปีกลายเลยพี่ พี่ชอบของใหญ่ผมขอของเล็กๆแล้วกัน

ปีนี้มีคนถืออินทรีดำ (Indian black Eagle) แล้วนะครับ สวยๆเลย อิอิ

ongnisuka พิมพ์ว่า:

แถวบ้านพี่มีบินอยู่หลายตัว กว่าจะได้ตัวนี้มาเหนื่อยอยู่เหมือนกันต้องอดทนและทนอดเลยล่ะ

แล้วในสังกัดเยอะแยะ ขนาดนั่น พี่โอ่ง ฝึก ง่อม เลย สิครับ
ถ้าจะแบ่ง แฮริส ราคาพิเศษ ก็ บอกผม ได้เน้ออออออ อิอิ

สวยงาม & น่าอิจฉามากๆ เลยครับ

วาสนาผมคงไม่ถึงเจ้านี่แน่นอน เฮ้อ อิฉาสุดๆ

อิจฉาเค้าทำไมล่ะครับ เริ่มมองหาวันนี้ วันหน้าได้กักตัวนะครับ ฮ่าๆๆ ได้แล้วขอแบ่งบ้างเด้อ!