สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่านปีนี้เมืองไทยอุณหภูมิลดลง1-2องศาแต่ฤดูฝนก็มาเร็วขึ้นด้วยยังไงก็เตรียมพร้อมรับความชื้นที่เพิ่มขึ้นด้วยรักษาสุขภาพทั้งคนและนกนะครับ ผมมีบทความมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับตำราฝึกนกล่าเหยื่อ ผมขอเรียกตำราฝึกเพราะคำว่าตำราต่างกับคำว่าหนังสือ หลายท่านที่เลี้ยงนกอาจมีตำราฝึกนกล่าเหยื่อเป็นของตนเองเพื่อเป็นแนวทางศึกษาในการฝึกแต่บางท่านอาจไม่ใช้เพราะศึกษาจากWeb siteหรือดู you tube ก็พอเข้าใจแต่บางท่านอาจกำลังตัดสินใจหาไว้สัก 1-2 เล่มเพื่อที่จะเข้าใจได้ลึกซึ้งขึ้นผมจึงขอแนะนำตำราที่สมควรจะมีเก็บไว้ ในยุคก่อนที่จะมีระบบ Internet , Falconer ที่ประสบความสำเร็จ
(ผมหมายถึงผู้ที่ฝึกนกล่าสัตว์ได้เกิน 4-5 ชนิดจากนกหลายสกุลขึ้นไป) เขามักจะมีตำราเป็นของตนเองอย่างน้อยที่สุด 1 เล่ม falconer รุ่นใหม่ในบ้านเรามักชอบศึกษาตำราของอังกฤษจากผู้เขียน เช่น Phillip Glasier , Emma Ford ,Nick Fox ซึ่งท่านเหล่านี้เป็น Expert specialist falconer ระดับโลก เพื่อนๆคงรู้จักกันดีพออยู่แล้ววันนี้ผมยังไม่ขอกล่าวถึงแต่จะขอเล่าถึง Falconer ระดับ Expert Specialist จากฝั่งทวีปอเมริกาเหนือเนื่องจากทวีปอเมริกาเหนือจัดเป็นทวีป New Land เพราะพึ่งจะมีการก่อตั้งเป็นประเทศต่างๆเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้เอง เฉกเช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ทาง falconry ของที่นี่จึงไม่ค่อยมี และต่อมาเมื่อกีฬาฝึกเหยี่ยวถูกถ่ายทอดไปถึงก็ต้องเป็นที่นิยมและมีความแปลกใหม่เกิดขึ้นแน่นอน เพื่อนๆลองนึกภาพดูนะครับถึงแม้นว่าทวีปอเมริกาเหนือจะมีประเทศเพียงไม่กี่ประเทศแต่มันเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่โตมากๆลำพังแค่ประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวพื้นที่ก็ใหญ่เกือบเท่าขนาดของทวีปยุโรปทั้งทวีปแล้ว ประชากรก็หลายร้อยล้านคน นัยนี้ผมจะสื่อความหมายว่ามันมีความเป็นเอกเทศและหลากหลายในทุกๆเรื่องครับ และก่อนที่เราจะหาซื้อตำราฝึกเหยี่ยวสักเล่มเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราก็ควรจะทราบประวัติของผู้เขียนตำราเหล่านั้นบ้างเพราะหนังสือฝึกเหยี่ยวมีให้เลือกซื้อมากมายนับร้อยเล่มจากหลากหลายผู้เขียนและหลายภาษาแต่ผู้เขียนที่โดดเด่นจริงๆมีเพียงไม่กี่สิบท่านเท่านั้น ท่านแรกที่ผมจะขอกล่าวถึง คือ Legend of Super Master falconer in North America ท่านผู้นั้นชื่อ Frank Lyman Beebe ท่านเป็นชาวแคนาดาตามประวัติเริ่มเลี้ยงนกมาตั้งแต่ 8-9 ขวบ เลี้ยงจนถึงอายุ 95 ปีตอนหนุ่มๆท่านไปศึกษาค้นคว้าเรื่องเหยี่ยว Peregrine และทำงานที่สวนสัตว์ใน Vancouver ประเทศแคนาดาในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่2 และต่อมาท่านยังเป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมก่อตั้ง NORTH AMERICAN FALCONERY ASSOCIATION (สมาคมกีฬาผู้ฝึกเหยี่ยวแห่งทวีปอเมริกาเหนือ)และยังเป็นประธานหรือกรรมการใน FALCONRY CLUB OF AMERICA และสมาคม หรือ ชมรมจากมลรัฐต่างฯในทวีปอเมริกาเหนือ ท่านยังเป็นผู้ศึกษาการเพาะพันธุ์เหยี่ยว Gyr falcons (สายพันธุ์ประเทศแคนาดา)ท่านเป็นผู้เพาะเลี้ยงเหยี่ยว falcons ได้สำเร็จเป็นคนแรกๆของทวีปในปี 1960 นับได้ว่าท่านผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและวางรากฐานการเพาะเลี้ยงและฝึกเหยี่ยวในทวีปอเมริกาเหนือ (ช่องทศวรรษ 1950-80 ) อีกทั้งยังเป็นผู้ที่นำเหยี่ยว Gyr falcons (สายพันธุ์แคนาดา) มาฝึกและดึงเอาความสามารถขั้นสูงสุดของตัวนกออกมาให้ถึงระดับสุดยอดอีกทั้งทำให้โลกของชาวอาหรับรู้ว่าเหยี่ยวชั้นเลิศในโลกไม่ได้มีแต่ Saker falcons หรือ Sahaeen falcons เท่านั้นเพราะในโบราณกาลเขตอาราเบียนั้นได้ชื่อว่าเป็นสำนักตักศิลาของ falcons มากว่าพันปี Beebe ท่านว่ายังมี “ ราชันหิมะแห่งแดนเหนือ ” คือ Arctic Gyr falcons ปัจจุบัน Beebe พึงจะเสียชีวิตไปเมื่อ 3-4 ปีนี้เองครับอายุท่านยืนมากถึง 95 ปี ( ทำบาปขึ้น)
รูปBeebe กับGyr ตัวเก่งเพราะนกตัวนี้อายุ 20กว่าปีส่วนอาจารย์โยดาอายุ 93 ปีขณะถ่ายภาพ
--------------------------------------
ขอแนะนำ 1. Hawk,Falcon and Falconry ผู้แต่ง Frank Lyman Beebe ตำราเล่มนี้เหมาะสำหรับนักสะสมเท่านั้นเพราะเป็นการเขียนยุคแรกๆของท่าน ราคาจึงแพงครับและไม่ค่อยมีการพิมพ์ซ้ำ
***********************
2. North American Falconry and hunting hawk ผู้แต่ง Frank Lyman Beebe ตีพิมพ์ครั้งแรก 1960 มีความหนาถึง ห้าร้อย กว่าหน้า น้าหนัก 2กิโลกรัมตำราเล่มนี้เปรียบเสมือนเป็นคัมภีร์ไบเบิลของการฝึกเหยี่ยวในโลกยุคModern Falconry ( หลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ปี1946 – 2000 ) ปัจจุบันรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับการฝึกนกครบถ้วนทุกกระบวนความมีทั้งภาพถ่ายและภาพวาดลายเส้นโดยตัวผู้เขียนเอง คัมภีร์เล่มนี้ตลอดระยะเวลา 50ปีตีพิมพ์ซ้ำไปแล้ว 8-9ครั้งปัจจุบันถ้าเป็นเล่มที่ตีพิมพ์ครั้งที่1-5 ซื้อขายหรือประมูลกันเล่มละเป็นหมื่น ขนาดฉบับที่ตีพิมพ์ครั้งล่าสุดยังขายกัน 250-350 US คัมภีร์เล่มนี้ผมไม่ได้แนะนำให้ซื้อนะครับแค่เล่าสู่กันฟังเป็นเกร็ดความรู้
***********************
3. The Compleat Falconer ผู้แต่ง Frank Lyman Beebe เล่มนี้ก็ถือว่าเป็น คัมภีร์อีกเล่มที่ตีพิมพ์ขึ้นในยุคหลัง (1992)ได้รวบรวมความรู้วิชาการขั้นสุดยอดไว้มีความหนา สามร้อยกว่าหน้าโดยเนื้อหาจะมีความทันสมัยขึ้นอ่านเข้าใจง่ายขึ้นด้วยหน้าปกสีขาวมีรูปเหยี่ยว falcon ยืนบนเหยื่อปัจจุบันยังพอมีขายอยู่ตามแหล่งขายหนังสือราคาเล่มละ 70-80 US
************************
4. The Manual Falconry ผู้แต่ง Frank Lyman Beebe เล่มนี้เป็นเล่มที่ผมแนะนำให้หาซื้อครับเพราะเป็นฉบับคัดย่อที่อ่านเข้าใจง่ายมีภาพเท่าเป็น (ขาวดำ) ที่ยังเป็นฉบับที่มีการพิมพ์ซ้ำหลายรอบ ราคาก็ถูก 16-18 USD ที่สำคัญเป็นตำราฉบับ pocket book สามารถนำพาไปไหนได้สะดวกมากเวลาไปฝึกนกยังพกติดกระเป๋าไปได้ด้วยครับหาซื้อได้ตาม web site เหยี่ยวทั่วไป
อนึ่งผมอยากบอก falconer รุ่นใหม่บางท่านว่าแม้นว่าตำราของท่านBeebe บางเล่มจะถูกตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1950-2000 ต้องไม่ลืมกีฬาฝึกเหยี่ยวมีประวัติศาสตร์มายาวนานหลายพันปีจนถึงปัจจุบันวงการfalconry มาถึงยุค Y2K falconry (หลังปี2000 ) ซึ่งมีวิทยาการใหม่,มีโภชนาการอาหารที่ดีขึ้น มียารักษาโรคที่ทันสมัย มีอุปกรณ์การฝึกที่ทันสมัยขึ้น และมีของเล่นหรือลูกเล่นในการเล่นกับนกเพิ่มขึ้น แต่ทว่าหลักการฝึกนกก็ยังคงเหมือนเดิมกว่า 80%นะครับ
*******************************
อีกท่านหนึ่งเป็นชาวสหรัฐอเมริกา ชื่อ Michael McDermott มีกลุ่มเลี้ยงนกอยู่ในมลรัฐแคริฟอเนีย ( รัฐนี้ใหญ่เกือบเท่าประเทศไทย)จัดว่าเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงในยุค Y2K Falconry อย่างแท้จริง ท่านเป็นผู้พลิกประวัติศาสตร์การฝึกเลี้ยงเหยี่ยวในสกุลปีกสั้น ชนิดแทบจะเก็บตำราเก่าขึ้นหิ้ง เช่น ท่านไม่นิยมสวมHood ใส่ Jesses แบบธรรมชาติ การฝึกแบบ Imprint ที่มีกฎเกณฑ์และมุมมองที่ไม่เหมือนใครอีกทั้งท่านสามารถฝึกเหยี่ยวกลุ่ม Sparrow hawk ให้ล่านกได้ประสบความสำเร็จสูงมากที่ ท่านเป็น expert falconer จากอเมริกาที่ไปโด่งดังถึงประเทศอังกฤษ เมื่อต้นปีนี้ท่านไปสัมมนาและบรรยายเกี่ยวกับ หลักการ เลี้ยงของท่านในทั่วประเทศอังกฤษ
5. Imprint Accipiter ผู้แต่ง Michael McDermott
เล่มนี้ปฏิวัติวงการเลี้ยงเหยี่ยวปีกสั้นแบบ Imprint ด้วยมุมมองและความเชื่อที่เปลี่ยนไปเนื้อหามีตั้งแต่เริ่มหาลูกอ่อนอายุไม่กี่วันจนถึงสิ้นสุดการฝึกจัดเป็นคัมภีร์สำหรับการฝึกแบบ Imprint ของยุคใหม่อย่างแท้จริง แต่ ทว่า ไม่เหมาะกับมือใหม่ (ผู้เขียนบอกเอง)และ คัมภีร์เล่มนี้อ่านยากครับสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ยังมีประสบการณ์ไม่พอที่ว่ายากคือจะเข้าใจให้ลึกซึ้งต้องอาศัยประสบการณ์ตรงจากนกสกุลนี้มาหลายๆตัวไม่ใช่ฝึกได้ ตัวสองตัว และต้องหลายชนิดด้วย ในตำรามีรูปประโยคและใช้คำศัพท์เฉพาะทางเรียกว่าเปิด Dictionary ยังอ่านไม่ค่อยเข้าใจแม้นตัวผมยังอ่านหลายรอบก็ยังตีความไม่ชัดเจนโชคดีท่านอาจารย์อีก 2 ท่านคอยชี้แนะเพราะปัจจุบันพวกท่านกลับมาฝึกเหยี่ยว Sparrow hawk ล่านกกันอีกรอบ หนังสือหาซื้อได้ตาม web site เหยี่ยวทั่วไปปกแข็งราคา 54-60 US
*******************************
6. Accipitrine Behavioral Problems: Diagnosis and Treatment ผู้แต่ง McDermott เล่มนี้บอกถึงอุปนิสัยเชิงจิตวิทยา บุคลิก พฤติกรรม และปัญหาต่างๆในเหยี่ยวปีกสั้นโดยมีทัศนคติและแนวคิดที่แปลกแยกโดยศึกษาค้นคว้ามาจากกลุ่มคนเลี้ยงนกเหยี่ยวประมาณร้อยตัวเหมาะสำหรับผู้ที่คลั่งไคล้นกสกุลนี้อย่างจริงจังตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 2004 หาซื้อได้ตาม จาก เวป ทั่วๆไป ราคา54-60 USD
*****************************
7. Buteo and Bushytails ผู้แต่ง Gary Brewer ท่านเป็นคนสหรัฐ เป็นผู้มีชื่อเสียงอีกท่านในยุค Modern falconry ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Red feathers hunting group ในมลรัฐ Arizona และ Texas แค่รัฐ Texas รัฐเดียวก็มีขนาดใหญ่กว่าประเทศอังกฤษเกือบสามเท่า และ กลุ่มนี้เน้นฝึกเหยี่ยว Red- tailed hawk ซึ้งมีมากมายหลายสิบชนิดย่อยแต่ละชนิดย่อยก็มีความสามารถแตกต่างกันบ้างและ Harris hawk ด้วย ต้องไม่ลืมว่าเหยี่ยว Harris hawk และ Red- tailed hawk มีเฉพาะในทวีปอเมริกาเท่านั้นจึงไม่มีประวัติศาสตร์ทาง falconry กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในการฝึกนกจำพวกนี้
สำหรับผู้ที่ต้องการฝึกนกในสกุลเหยี่ยวใหญ่ Buteo หรือ Para Buteo (Harris )เจาะจงกับนกในสกุลนี้โดยเฉพาะตีพิมพ์ปี 1994 ราคา หาซื้อได้จาก web site เหยี่ยวทั่วไป
8. The Hunting Falcons ผู้แต่ง Bruce A Haak ท่านเป็นนักจับเหยี่ยวและนักปีกษีวิทยา เล่มนี้กล่าวถึงการฝึกเหยี่ยวปีกแหลมแท้ตั้งแต่เริ่มกักนก หรือจากลูกป้อน หรือ แบบ imprint เป็นการฝึกแบบอเมริกันสไตล์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฝึกเหยี่ยวปีกแหลมแท้ โดยท่านใช้เหยี่ยว Prairie falcon เป็นตัวทดสอบเพราะในตำราโบราณมักบอก Prairie falcon ไม่ค่อยเก่งโดยท่านบอกว่าถ้าเรารู้จักใช้เทคนิคและเข้าใจตัวนกเราก็สามารถฝึกนกบางชนิดให้เก่งได้ราคา 35-40 USD ตีพิมพ์ 1992 หาซื้อได้ตาม จาก เวป ทั่วๆไป
อนึ่งบทความข้างต้นมิได้แปลจากบทความต่างประเทศเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นความเห็นส่วนบุคคลของผมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
“ความรู้มีก็แบ่งปันกัน สิ่งไหนดีก็บอกต่อไป” ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วฝึกนกกันได้เก่งอย่าลืมกลับมาสอน Horus ด้วยนะครับ
บ้าน Events 
Publications 
สมัครสมาชิก(Register) 
