อินทรีดำLin Diao (ออกเสียง หลินเตียว แปลว่า อินทรีดำ-โดยผู้แปล)
Ictinaetus malayensis (Temminck) 1822
ชื่อมาจากภาษาละติน malay=Malay มาเลย์, ensis=belonging to เกี่ยวข้อง
รวมความได้ว่า เกี่ยวโยงกับอินทรีในมาเลย์
ชื่ออังกฤษ Indian Black Eagle
ชื่ออื่นๆ ชื่อท้องถิ่น ฮักม้อคาเอง (ออกเสียงตามสำเนียงท้องถิ่น แปลว่าอินทรีขนขาดำ-โดยผู้แปล)
สถานะภาพ ประจำถิ่น
ขนาด ยาว 67-81 ซม. ปีกกว้าง 164-178 ซม. เทียบสัดส่วนลำตัวและปีก2.7 เทียบสัดส่วนปีกและหาง 0.34
อินทรีดำและเหยี่ยวภูเขาทั้งสองชนิดเป็นนกประจำถิ่นที่มีสถานะภาพหายากในป่าดิบของประเทศไต้หวัน ผู้คลั่งไคล้ในนกนักล่าจะมีความปิติมากหากได้พบเจอ มันไม่เพียงแต่มีจำนวนที่น้อย แต่ยังสื่อความหมายถึงป่าดิบอันอุดมสมบูรณ์ดั่งอัญมณีงามของไต้หวัน ในระหว่างสองชนิดนี้ อินทรีดำมีความใกล้ชิดมนุษย์มากกว่า แม้มันจะชอบป่าดิบ แต่ก็ปรับสภาพเข้ากับป่าชั้นรองลงมาได้อย่างดี บ้างครั้งจึงพบได้ในป่าเขาที่ไม่ลึกนัก
การจำแนกอินทรีดำเป็นเรื่องไม่ยาก เพราะไม่มีนกนักล่าชนิดใดที่มีลักษณะใกล้เคียง อาจสับสนกับอินทรีปีกลายซึ่งจะไม่พบในป่าดิบ จึงไม่เป็นปัญหาในการจำแนก แม้มันจะมีขนาดใหญ่และง่ายในการจำแนกแต่ใช่จะเจอะเจอตัวได้ง่าย เพราะมันชอบบินเหนือระดับเรือนยอดไม้ในป่าเพื่อหากิน ชอบแฝงตัวตามฉากหลังของผืนป่า ดังนั้นสำหรับผู้คลั่งไคล้ในนกนักล่าจำต้องปรับวิสัยทัศน์เสียใหม่ โดยไม่มัวแต่เฝ้าดูท้องฟ้า ต้องคอยตรวจสอบพื้นหลังของป่า ก็จะเจอตัวได้ง่ายขึ้น
พฤติกรรมในการบินของอินทรีดำมีลักษณะโดดเด่น มีลีลาหลากหลาย ในขณะที่หาเหยื่อจะเชื่องช้าหนักแน่น บินสูงจากยอดไม้ไม่มากนัก บ่อยครั้งจะบินผลุบและบินโผล่ระหว่างช่องของต้นไม้ใหญ่ เมื่อมันต้องการเปลี่ยนแหล่งหากินบนดอยที่สูงขึ้น ก็จะโผล่ไปยังตำแหน่งที่สูงสูงแล้วถลาลงมาด้วยความเร็วสูง จนไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำความเร็วได้เช่นนั้น นอกจากนี้มันยังมีท่วงท่าที่สง่างามอีกประการหนึ่ง โดยบินลักษะคลื่น มาดว่ามันจะพบเห็นได้ตลอดปี แต่ในฤดูใบไม้ผลิจะพบเห็นได้ง่าย ซึ่งพฤติกรรมนี้กระทำติดต่อกันนับร้อยครั้ง อาจมีนัยยะถึงการแสดงเพื่อจับคู่และประกาศอาณาเขต
อุปนิสัยของอินทรีดำนั้นชัดเจน มักใช้ชีวิตคู่ทั้งปี ดังนั้นจึงมักพบคู่ชีวิตอยู่ห่างไม่ไกลนัก โอกาสที่จะพบเห็นมันบินร่วมกับนกล่าเหยื่อชนิดอื่นแทบไม่มี เว้นจะขับไล่ผู้บุกรุกเช่นเหยี่ยวภูเขาที่รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขต
โดยปกติอินทรีดำจะไม่ส่งเสียงร้อง แต่มักได้ยินเสียงในช่วงฤดูผสมพันธุ์ เสียงร้องต่อเนื่องสั้นๆ "อิ-ยิ่ว, อิ-ยิ่ว, อิ-ยิ่ว"
เวลา
• พบได้ตลอดทั้งปีในป่าที่สมบูรณ์ ด้วยความสามารถในการบินร่อน ถึงสภาพอากาศจะครึ้ม มีฝนโปรย มีหมอกก็สามารถพบเห็นได้
• ในฤดูหนาว จะพบในระดับสภาพภูมิประเทศที่ต่ำหรือสภาพป่าที่ถูกบุกรุก คล้ายคลึงกับนกป่าเล็กๆที่เคลื่อนย้ายลงมาในระดับสภาพภูมิประเทศที่ต่ำในฤดูหนาว
• มีความสามารถในการบินที่ดี โดยมีลักษณะกระพือปีกแบบเนิบนาบ จึงอาจเห็นมันบินตลอดทั้งวัน
ถิ่นอาศัย
• แพร่กระจายที่ระดับความสูง300-2000เมตร ของป่าดิบเขา เพียงแต่ว่าในระดับความสูง500-1500เมตรจะใช้เป็นที่อาศัย พักพิง โดยอาศัยตามไม้ที่มีใบหนา
• สามารถปรับตัวเข้ากับป่าเสื่อมโทรมที่มนุษย์ทำลายได้เช่นกัน โดยเฉพาะป่าไหล่เขาที่แผ้วถางในระดับต่ำ ยอดดอย หรือไม่ก็ป่าหุบเขาแคบๆ
• แม้จะแพร่กระจายทั่วเกาะไต้หวัน แต่ทางตอนเหนือจะมีปริมาณมากกว่า
ลักษณะ
• เต็มวัย เพศผู้เพศเมียจะเหมือนกัน ทั่วทั้งตัวจะสีน้ำตาลดำเข้ม ตาดำ หัวตาสีเทา หนังโคนจมูก(cere)สีเหลือง จะงอยปากสีเทาดำ หางสีดำเข้ม มีแถบขวาง8แถบจางจางไม่ชัดเจน หางด้านบนสีน้ำตาลเข้ม ขามีขนคลุมขา นิ้วตีน ขาสีเหลือง ปีกยาว ปลายปีกยาวกว่าปลายหาง
• นกเด็ก สีขนเหมือนเต็มวัย เพียงแต่ขนปีกและขนหางมีลายที่อ่อนกว่า ทำให้เห็นเป็นริ้วสีขาวดำตัดกันชัดเจน หลังและขนรองปีกมีสีขาวเป็นดวงดวง เมื่อขึ้นปีที่สองจึงหายไป
ลักษณะบิน
• ปีกกว้างยาวระนาบตรง คล้ายสีเหลี่ยมผืนผ้า เพียงแต่ร่องแขนแคบเล็กน้อย ปลายปีกกว้าง นิ้วมือทั้ง7ค่อนข้างยาว หางยาวทรงกระบอก ปลายหางตัด เมื่อร่อนเป็นแนวตรงจะหักข้อมือ ทำให้นิ้วมีลักษณะคล้ายขั้นบันไดลดหลั่น
• ตลอดทั้งตัวสีเข้มเกือบดำ ยกเว้นหนังโคนจมูกและขาสีเหลือง ไม่มีลายที่เด่น ในระยะใกล้จะเห็นลายขวางจางๆที่ขนใต้ปีกและหาง ส่วนปลายของขอบท้ายปีกมีสีอ่อน ด้านหลังจะเห็นสีขนอ่อนของขนคลุมโคนหางด้านบน จนมีลักษณะเหมือนเอวเป็นสีขาว
• ขณะร่อน แขนปีกทั้งสองข้างอยู่ในระนาบเดียวกัน โดยปลายนิ้วชี้ขึ้น เป็นจุดจำแนกที่สำคัญเมื่อเห็นในระยะไกล
เปรียบเทียบชนิดอื่น
• อินทรีปีกลาย เงาร่างปลายปีกจะกลมกว่า หางสั้น รูปพัด ขนคลุมโคนหางด้านบนสีขาวใหญ่ ทำให้เห็นเป็นเอวขาวชัดเจน ขณะบิน แขนตกเล็กน้อย
• เหยี่ยวรุ้ง ขนาดเล็กกว่า ตัวเต็มวัยมีแถบปีกสีขาวนิ้วสั้น หางสั้นกว้าง แขนยกขึ้น ไม่มีขนคลุมขา
• เหยี่ยวผึ้งชนิดสีเข้ม รูปร่างเล็ก ปีกแคบ นิ้วสั้น ขณะบินปีกบนไม่ชัดเจน
แปลจาก
Lin,Wen Horn and Cheng, Civi. 2006. A field Guide to the Raptors of Taiwan. p.70-73Yuan-Liou Publishing Company
original Chinese edition "A Field Guide to the Raptors of Taiwan " /text by Wen-Horn Lin; illustration by Civi Cheng/Yuan-Liou Publishing Company http://www.ylib.com